ควันหลง “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
แต่เกมที่หลายคนต่างพูดถึงกันมาก คงหนีไม่พ้นศึก
“เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์” ที่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เปิดรังอาศัยลูกฮึดตามตีเสมอ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2-2 ซึ่งในนัดดังกล่าวมีหลายเรื่องที่ Football Moment อยากนำมาถกกันกับแฟนๆ ว่ามีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง
VAR ทำพิษ “มาเน่” ล้ำหน้าแค่รักแร้
ถือเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ที่สนุกเร้าใจ ดั่งที่แฟนๆ ลูกหนังรอคอย เมื่อ เอฟเวอร์ตัน จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังรักษาสถิติไม่แพ้ใครไว้ได้ในการลงเตะ 5 นัด อาศัยลูกตื้อเปิด กูดิสัน พาร์ค ตามตีเสมอ “แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล 2-2 โดยเกมดังกล่าว “หงส์แดง” เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า และน่าจะเป็นฝ่ายคว้า 3 แต้มกลับออกไปได้ แต่เพราะ VAR เจ้ากรรมที่ทำให้ “เดอะค็อป” ต้องเซ็งไปตามๆ กันอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ก็เคยพลาดการได้ประตูในเกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อ VAR จับล้ำหน้า โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ที่เหลื่อมกว่าแนวรับ “สิงห์ผงาด” แค่รักแร้เท่านั้น มาล่าสุดซีซั่นนี้ เป็นอีกครั้งที่แข้ง “หงส์แดง” ล้ำหน้าด้วย รักแร้ของ ซาดิโอ มาเน่ ทำให้จังหวะหลุดไปจ่ายบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซัลโวสุดสวยท้ายเกม ประตูชัยของแชมป์เก่าจึงถูกตัดสินเป็นโมฆะไปโดยปริยาย
ซึ่งหลังจบเกม เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเมืองผู้ดีทำนองติดตลกว่า ฤดูกาลก่อนทีมของเขาก็โดน VAR จับล้ำหน้ารักแร้ มาคราวนี้ก็โดน VAR ทำพิษอีก แม้ใครต่อใครเห็นพ้องต้องกันว่านี่ไม่ใช่การล้ำหน้า แต่ทุกวันนี้ รักแร้ กลายเป็นส่วนที่ล้ำหน้าไปแล้วสำหรับโลกลูกหนัง ณ ปัจจุบัน
“พิคฟอร์ด” นายทวารจอมพิฆาต
นอกจากประเด็น “ล้ำหน้าด้วยรักแร้” สิ่งที่แฟนๆ นำมาพูดถึงกันเยอะ คงหนีไม่พ้นจังหวะที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเอฟเวอร์ตัน เข้าไปอัด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังลิเวอร์พูล จนบาดเจ็บหนักที่เข่า ต้องออกจากสนามตั้งแต่ช่วงต้นเกม ซึ่งจังหวะดังกล่าว ถ้าไม่มีเหตุการณ์ล้ำหน้าเกิดขึ้น เชื่อเหลือเกินว่า พิคฟอร์ด ต้องโดนไล่ออกจากสนาม และ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ต้องโดนจุดโทษเป็นแน่
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ในเกมที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ บุกถล่ม เอฟเวอร์ตัน ถึงรัง 6-2 ช่วงครึ่งแรก พิคฟอร์ด ก็เคยสวมวิญญาณ “นายด่านจอมพิฆาต” อัดใส่ เดเล่ อัลลี่ มิดฟิลด์ “ไก่เดือยทอง” ลักษณะอันตรายเหมือนกับที่เข้าใส่ ฟาน ไดค์ มาแล้ว ทำให้ อัลลี่ เล่นต่อไม่ไหว ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง ยังดีที่แข้งทีมชาติอังกฤษไม่เจ็บหนัก
ซึ่งครั้งนั้น อลัน เชียเรอร์ กองหน้าตำนาน “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ออกโรงจวกรุ่นน้องว่าเล่นแรงเกินเหตุ ถ้าไม่ติดว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า พิคฟอร์ด สมควรโดนไล่ออกเป็นที่สุด
จากเหตุการณ์ล่าสุดก็เช่นกัน ฟิล แม็คนัลตี้ นักข่าวของ “บีบีซี” ออกมาวิจารณ์ พิคฟอร์ด โชคดีที่ไม่โดนลงโทษในความป่าเถื่อนที่กระทำต่อ ฟาน ไดค์ ซึ่งการเข้าบอลจังหวะดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า เข่าของ ฟาน ไดค์ บิดไปอย่างชัดเจน และนี่ก็แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของ พิคฟอร์ด อย่างชัดเจน กับจังหวะที่มักเข้าพรวดพราดที่มีให้เห็นถี่ขึ้นเป็นลำดับ
“หงส์แดง” เอาอย่างไรเมื่อขาด “ฟาน ไดค์”
จากการโดนอัดหนักดังกล่าว มีรายงานว่า ฟาน ไดค์ เจ็บหนักถึงขั้นเอ็นไขว้หน้าบริเวณเข่าฉีกขาด อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนั่นหมายความว่าปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ อาจต้องพักยาว 7-8 เดือน คงไม่มีโอกาสกลับมาค้ำแนวรับ “หงส์แดง” ไปตลอดทั้งฤดูกาล 2020-21
เรื่องนี้ถ้าเป็นจริง ย่อมเกิดความเสียหายขึ้นอย่างแน่นอน ในเมื่อ ฟาน ไดค์ คือทุกอย่างในเกมรับ ลิเวอร์พูล แต่ถ้ามันเกิดขึ้น เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะตอนนี้ “หงส์แดง” เหลือผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอาชีพในทีมชุดใหญ่แค่ 2 รายได้แก่ โจเอล มาติป ดาวเตะกระดูกเปราะ และ โจ โกเมซ ที่ยังหาความแน่นอนไม่ได้เท่าที่ควร ดังนั้นกุนซือชาวเยอรมัน อาจต้องขยับเอา ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติบราซิล ลงมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น เหมือนกับเกมที่เจอกับ เชลซี เมื่อช่วงต้นซีซั่น
หรือมิเช่นนั้น คล็อปป์ คงต้องเปิดโอกาสให้แข้งดาวรุ่งอย่าง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ , รีส วิลเลี่ยมส์ และ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ขึ้นมาเสริมงานรุ่นพี่ในช่วงเวลาจากนี้ไปจนกระทั่งตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดรอบสองช่วงปีใหม่ แต่ช่วงเวลาดังกล่าว คงเป็นอะไรที่อกสั่นขวัญแขวนกันเลยทีเดียวสำหรับแฟนๆ “หงส์แดง” เพราะนอกจากภารกิจป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่ไม่ควรพลาดทำแต้มหล่นหายไปง่ายๆ การลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาจส่งผลกระทบได้ เพราะแค่รอบแบ่งกลุ่ม ลิเวอร์พูล เตรียมพบความท้าทายจาก อตาลันต้า (อิตาลี) และ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) ที่มีเกมรุกเฉียบคม รวมถึงไม่สามารถประมาท มิดทิลแลนด์ ทีมชั้นนำจากเดนมาร์ก ได้เช่นกัน จากที่ตอนแรกหลายฝ่ายมองว่า “หงส์แดง” น่าจะโบยบินเข้ารอบไปได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้อะไรที่ว่าแน่ๆ อาจไม่แน่แล้วก็เป็นได้
คำขอโทษในเกมเดือด
ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่ดุเดือดขนาดนี้ ไม่มีใบแดงเลยก็จะกระไรอยู่ ริชาร์ลิสัน กองหน้าบราซิเลี่ยนของเอฟเวอร์ตัน เลยจัดให้ ยกเท้าสูงยันใส่ ติอาโก้ อัลคันตาร่า จนโดนตะเพิดออกจากสนามในช่วงท้ายเกม
ภายหลังการแข่งขัน ริชาร์ลิสัน ยืนยันว่าใครที่รู้จักเขา จะรู้ดีว่าตนเองไม่ใช่นักเตะที่ชอบเล่นนอกเกม จังหวะบวกดังกล่าวกับ ติอาโก้ เป็นความพยายามมุ่งมั่นเล่นไปที่บอล ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพแต่อย่างใด
โดย ริชาร์ลิสัน ได้ส่งข้อความขอโทษไปหา ติอาโก้ และก็หวังว่าเพื่อนร่วมอาชีพจะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก พร้อมกันนี้ดาวยิงวัย 23 ปี ยังขอโทษต่อสาธารณชน ขอโทษเพื่อนร่วมทีมและแฟนๆ ฟุตบอล กับจังหวะดังกล่าว ซึ่งมันย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว แต่ต่อจากนี้ตัวเขาก็จะไตร่ตรองจังหวะต่างๆ และทำงานของตัวเองให้หนักขึ้น เพื่อก้าวเดินต่อไปเมื่อได้โอกาสกลับมาลงสนามอีกครั้ง
ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน
บทความข่าวฟุตบอล :: อ่านบทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี