" "
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟาดแข้งกันไปได้แค่ 7-8 นัด

วิกฤติแข้งเข้าโรงหมอ “หงส์แดง” อ่วมอรทัย

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟาดแข้งกันไปได้แค่ 7-8 นัด

ยังอยู่ในช่วงต้นฤดูกาล 2020-21 ด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่า “แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟาดแข้งกันไปได้แค่ 7-8 นัด

กำลังเผชิญปัญหานักเตะเดินเข้าโรงหมอเป็นว่าเล่น ทั้งจากอาการบาดเจ็บ และติดเชื้อโควิด-19 งานนี้ Football Moment จะมาแจกแจง พร้อมกับพาไปดูสถานการณ์ว่า “หงส์แดง” จะฝ่าวิกฤติตรงนี้ไปอย่างไรได้บ้าง

โควิด-19 หรือ เอฟเอ เล่นงาน “หงส์แดง”

อย่างที่ทราบกันว่า โลกทั้งใบของเราเผชิญกับ “โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่” มาตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2019 ผ่านมาจะครบปีแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อรวมแล้วมากกว่า 54 ล้านคน และเสียชีวิตไปกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน แม้มีข่าวเรื่องวัคซีนป้องกันออกมาเป็นระยะ แต่ก็ยังไม่มีบริษัทยาแห่งหนใดในโลกออกมายืนยันถึงความสำเร็จที่มันจะเกิดขึ้นแบบ 100% ดังนั้น ประชากรโลกจึงต้องพยายามดูแลรักษาตัวให้ห่างไกลจาก โควิด-19 กันต่อไป

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าเชื้อไวรัสมรณะสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลกระทบไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬา โดยเฉพาะเกมลูกหนังรายการสำคัญๆ ฟุตบอลลีกหลายประเทศต้องหยุดพักการแข่งขัน ทำให้เกมที่ตกค้างเมื่อฤดูกาลก่อน (2019-2020) ต้องมาอัดแน่นโปรแกรมโม่แข้งกันตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้พักกันแป๊บเดียวก็ต้องลุยต่อในซีซั่นใหม่ 2020-21 จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม หลายลีกจึงเห็นพ้องต้องกันให้มีการปรับกฎการเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากเดิมแต่ละทีมเปลี่ยนตัวได้นัดละ 3 คน เพิ่มโควตาให้เป็นเปลี่ยนได้ 5 คน เพื่อรักษาสภาพร่างกายของผู้เล่นไม่ให้บาดเจ็บไปมากกว่านี้

ซึ่งในส่วนพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อนก็ใช้กฎการเปลี่ยนตัว 5 คน แต่พอเปิดฉากซีซั่นใหม่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ให้ลีกดิวิชั่นต่างๆ และฟุตบอลถ้วยภายใต้การดูแล กลับมาเปลี่ยนตัวผู้เล่นเท่าเดิมตามโควตา 3 คน ทำให้หลายๆ สโมสรประสบปัญหามีผู้เล่นบาดเจ็บกันระนาว จนทั้ง เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องออกมาประสานเสียงเรียกร้องให้พรีเมียร์ลีก กลับไปเปลี่ยนตัวได้ 5 คนอีกครั้ง เหมือนกับชาวบ้างชาวช่องลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลา ลีก้า สเปน , บุนเดสลีก้า เยอรมนี , กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หรือแม้แต่ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่ยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการฟุตบอลนานาชาติ หรือ ไอเอฟเอบี ที่ยังคงให้เปลี่ยนตัวได้นัดละ 5 คนต่อไป

บัญชีแข้งเจ็บป่วยยาวเป็นหางว่าว

         เมื่อพรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามกฎ “แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล จึงเจอปัญหาแข้งเจ็บป่วยกันระนาว ถึงตรงนี้ “หงส์แดง” มีนักเตะชุดใหญ่บาดเจ็บ และป่วยติดเชื้อโควิด-19 เบ็ดเสร็จแล้วรวม 15 ราย ดาวเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง ซาดิโอ มาเน่ , ติอาโก้ อัลคันตาร่า และล่าสุด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือผู้ได้รับเชื้อโคโรนาไวรัสเข้าสู่ร่างกาย โดย 2 รายแรกหายดีแล้ว ส่วน ซาลาห์ คาดว่าจะติดจากการกลับไปร่วมงานแต่งงานน้องชายที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล ยังเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ รวมๆ แล้ว 12 คน แบ่งเป็นพวกที่หายแล้วอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารบราซิลที่เจ็บหัวไหล่ ต้องพักไปหลายนัด ไล่ไปจนถึง คอสตาส ซิมิคาส แบ็กซ้ายตัวใหม่ชาวกรีซ ที่ผ่านมาแล้วทั้งโควิด-19 และอาการเจ็บต้นขา ต่อด้วย “กัปตันเฮนโด้” จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่รักษาอาการเจ็บต้นขาจนหายดี ขณะเดียวกัน เจมส์ มิลเนอร์ , นาบี้ เกอิต้า หรือกองหลังอย่าง โจเอล มาติป ต่างก็สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาได้ทั้งหมดแล้ว

แต่ “หงส์แดง” อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี เพราะแข้งที่อยู่ในโรงหมออย่าง อเล็กซ์-อ็อกเลด แชมเบอร์เลน ยังคงต้องพักยาวจากการเจ็บที่เข่า ฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ชาวบราซิเลียน ยังรอวันคัมแบ็กจากอาการเจ็บบริเวณแฮมสตริง ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้น แบ็กโฟร์ตัวจริงทั้ง 4 คน บาดเจ็บกันครบเลย ไล่ตั้งแต่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หัวใจสำคัญในแผงเกมรับ ปิดเทอมยาวจากการผ่าตัดเข่า ต่อด้วยคู่หูอย่าง โจ โกเมซ ที่ก็ผ่าเข่าไปเช่นกัน คงหายหน้าหายตาไปอีกหลายเดือน ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาดาวรุ่งเจ็บกล้ามเนื้อน่องจากเกมบุกเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักไปอีกเป็นเดือน มาล่าสุด แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายจอมฮึดที่ลงสนามให้ทีมมาอย่างต่อเนื่อง ก็แพ้ภัยให้แก่อาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา หลังจากลงสนามตลอด 120 นาที ช่วยให้ทีมชาติสกอตแลนด์ บุกไปดวลจุดโทษชนะ เซอร์เบีย ในรอบเพลย์ออฟ ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่จะโม่แข้งกันในปีหน้า ซึ่งเหล่า “เดอะค็อป” คงต้องลุ้นว่า โรเบิร์ตสัน จะเจ็บหนักหรือไม่ และต้องพักนานแค่ไหน

“คล็อปป์” เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

         แม้รายชื่อผู้เล่นเจ็บป่วยยาวเป็นหางว่าว แต่ คล็อปป์ คงไม่ได้ตกใจอะไรไปมากกว่านี้ ในเมื่อกุนซือชาวเยอรมัน เคยมีการบ้านให้ทำตั้งแต่ตอน ฟาน ไดค์ บาดเจ็บ การสลับตำแหน่งผู้เล่น หรือแม้แต่ให้โอกาสดาวรุ่งขึ้นมาช่วยทีมชุดใหญ่ คล็อปป์ ทำมาหมดแล้ว และยังดูไม่ส่งผลกระทบอะไรนัก ในเมื่อ ลิเวอร์พูล ยังรั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก ตามหลังจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้ แค่แต้มเดียว ขณะที่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็กวาดชัยมาได้ทั้ง 3 นัดที่ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม

แต่การที่ แบ็กโฟร์หายหน้าไปทั้งแผง แฟนๆ คงได้เห็นดาวรุ่งอย่าง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลียมส์ สลับกันลงมายืนคู่กับ โจเอล มาติป พร้อมกับภาวนาให้ มาติป อย่ากระดูกเปราะขึ้นมาอีก มิเช่นนั้น เซปป์ ฟาน เดอร์ เบิร์ก เซ็นเตอร์แบ็กดาวรุ่งชาวดัตช์ ต้องลงมาช่วยทีมอีกแรง ส่วนตำแหน่งที่ขาดหายไปของแบ็ก 2 ฝั่ง ทางขวา เนโก วิลเลียมส์ ดาวรุ่งเวลส์ จะได้ขึ้นมาประจำการเต็มตัว แบ็กซ้ายถ้า คล็อปป์ ไม่ถอย มิลเนอร์ ลงมาเล่น ก็ต้องให้ความไว้วางใจกับ คอสตาส ซิมิคาส นักเตะชาวกรีซเสียที ด้านตำแหน่งอื่นๆ แดนกลางอะไหล่ยังถือว่าพอเลือกใช้ได้อยู่ แต่ในแชมเปี้ยนส์ ลีก คล็อปป์ จะได้ใช้เกมยุโรปบ่มเพาะกระดูก เคอร์ติส โจนส์ ให้แข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นอีก ขณะที่แนวรุกการขาดหายไปของ ซาลาห์ ก็คงเป็น ดีโอโก้ โชต้า ขึ้นมาสวมบททดแทนได้อย่างไม่มีปัญหา โดยมี ทาคูมิ มินามิโนะ , ดิว็อค โอริกี้ และ เซอร์ดาน ชากิรี่ คอยเป็นแบ็กอัพให้เหมือนเดิม

หาตัวช่วยทันควัน หรือรอเสริมทัพปีใหม่

         ถึงกระนั้น การที่ ลิเวอร์พูล กำลังเผชิญปัญหาผู้เล่นเจ็บป่วยกันระนาว คล็อปป์ พร้อมด้วยบอร์ดบริหารคงต้องมองหาตัวช่วยเอาไว้บ้าง โดยเฉพาะตำแหน่งเกมรับ เมื่อมองไปที่ตลาดฟรีเอเย่นต์ ก็ยังมีกองหลังประเภทเก๋าเกมรอให้เซ็นสัญญาอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เอเซเกล การาย อดีตทีมชาติอาร์เจนตินา ที่อำลาถิ่น “ค้างคาว” บาเลนเซีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สถานะล่าสุดยังว่างงาน เช่นเดียวกับ แอชลีย์ วิลเลียมส์ อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เอฟเวอร์ตัน ในวัย 36 ปี หรือแม้แต่ มาปู ยองก้า-เอ็มบีว่า ดาวเตะชาวฝรั่งเศสอดีตแข้ง โอลิมปิก ลียง ที่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาแล้ว 46 นัดด้วยกัน

หรือไม่อย่างนั้น หาก คล็อปป์ มองว่า ลิเวอร์พูล ยังเอาอยู่ ยังไม่คิดว่านี่คือวิกฤติ ก็อาจประวิงเวลาตัดสินใจรอจนถึงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดตัวอีกครั้งช่วงปีใหม่ แล้วค่อยเสริมทัพให้ถูกจุดไปเลย แต่จากนี้ข่าวคราวการเสริมทีมของ “หงส์แดง” คงออกมาถี่หน่อย อย่างล่าสุด ก็มีข่าวว่าทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ เตรียมเงินเอาไว้ 8 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 320 ล้านบาท ในการตามจีบ รูเบน เซเมโด้ เซ็นเตอร์แบ็กชาวโปรตุกีส ของโอลิมเปียกอส ในลีกกรีซ งานนี้ไม่รู้ว่ามีพรายกระซิบที่ชื่อว่า ซิมิคาส คอยให้ข้อมูลอยู่หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปว่ากระแสที่ออกมาจะมีความจริงเจือปนอยู่มากน้อยแค่ไหน

 

 

 

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน

บทความข่าวฟุตบอล :: อ่านบทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี

@footballmoment