" "
ศึกฟุตบอลลีกยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิกฤติ “เกมรับ” ในทีมใหญ่พรีเมียร์ลีก

ศึกฟุตบอลลีกยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เปิดฉากกันมาได้กว่า 2 สัปดาห์ และก็มีเรื่องน่าสนใจให้ฉุกคิด

ศึกฟุตบอลลีกยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เพราะผ่านไปแค่ 2-3 นัด ปรากฏว่า สโมสรใหญ่ถึง 3 ทีม สะกดคำว่า “ปราชัย” ไปแล้วแต่หัววัน ไม่ว่าจะเป็น 2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เก่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 เมื่อซีซั่นก่อน รวมถึง เชลซี อันดับ 4 ฤดูกาลที่แล้ว ที่สำคัญทีมเหล่านี้กำลังเผชิญปัญหา “หลังบ้านรั่ว” เสียประตูรวมไปแล้วถึง 17 ลูกด้วยกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับทีมเหล่านี้ ?

“เรือใบสีฟ้า” ปัญหาแนวรับเรื้อรัง

ถ้าพูดถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แฟนๆ ลูกหนังมักนึกถึงเหล่านักเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ , เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ , ราฮีม สเตอร์ลิง , ริยาด มาห์เรซ หรือ กาเบรียล เฮซุส ซึ่งนักเตะเหล่านี้คือ ผู้เล่นในตำแหน่งเกมรุกล้วนๆ แต่ถ้าจะให้ชี้ว่าผู้เล่นในแนวรับ “เรือใบสีฟ้า” คนไหนคือซุปตาร์ เชื่อว่าแม้แต่แฟนๆ ซิตี้ เองยังไม่กล้าฟันธงว่านักเตะคนนั้นเป็นใคร

หลังจากหมดยุค แว็งซองต์ กอมปานี กัปตันทีมจอมแกร่ง แมนฯ ซิตี้ ดูเหมือนไร้เสาหลักในเกมรับมาตลอด พวกที่ทุ่มซื้อเข้ามาอย่าง จอห์น สโตนส์ หรือ อายเมริค ลาปอร์ต ถึงวันนี้ก็ยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้ สโตนส์ ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา จนหลุดจากสารบบทีมชาติอังกฤษ ไปแล้ว ขณะที่ ลาปอร์ต กลายเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกระดูกเปราะ เดี๋ยวเจ็บๆ ส่วนจอมเก๋าอย่าง นิโคลัส โอตาเมนดี้ ไม่ต้องพูดถึง ผ่านจุดสุดยอดของตัวเอง ความเชื่องช้าของดาวเตะอาร์เจนไตน์ ทำให้กลายเป็นสำรองถาวรไปเป็นที่เรียบร้อย

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จึงเริ่มต้นตลาดซื้อขายนักเตะด้วยการให้สโมสรจ่ายเงิน 41 ล้านปอนด์ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท ไปดึงตัว นาธาน อาเก้ มาจาก บอร์นมัธ แต่แฟนๆ คงมีคำถามในใจ ถึงแม้ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทำผลงานเด่นกับ บอร์นมัธ แต่ยังไม่ดีพอที่จะพา บอร์นมัธ รอดจากการตกชั้นได้ อย่างไรก็ตาม การมาของ อาเก้ ก็ทำให้ แมนฯ ซิตี้ สามารถดัน แฟร์นันดินโญ่ ขยับขึ้นไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับดังเดิม

ทว่า แฟร์นันดินโญ่ อาจได้คืนตำแหน่งกองหลังเหมือนกับเมื่อซีซั่นก่อน เพราะล่าสุด แมนฯ ซิตี้ พ่ายคาบ้านโดน เลสเตอร์ ซิตี้ บุกตะปบขาดวิ่น 5-2 และนี่เป็นครั้งแรกในอาชีพการคุมทีมของ เป๊ป 686 นัด ที่โดนทะลวงไปถึง 5 ประตู ก่อนหน้านี้กุนซือชาวสเปนเคยคุมทีมแล้วโดนคู่แข่งยิงได้ในเกมเดียว 4 ประตู มีอยู่ 3 ครั้งด้วยกัน สมัยที่คุม บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีก้า เยอรมนี 2 ครั้ง ส่วนอีกครั้ง คุมทัพ “เรือใบสีฟ้า” ปราชัยย่อยยับให้สังกัดเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า 0-4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2016

โดยเกมพ่าย “จิ้งจอกสยาม” ราบคาบ แมนฯ ซิตี้ เสียไปถึง 3 จุดโทษ เป็นความผิดพลาดของเกมรับล้วนๆ ไล่ตั้งแต่ ไคลน์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวา , เอริค การ์เซีย เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และ เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็กซ้าย ส่วนคนที่รอดตัวไปก็คือ อาเก้ เมื่อประเมินแนวรับ “เรือใบสีฟ้า” ชุดนี้ บอกได้เลยว่ายังไม่เข้าขั้นจริงๆ แบ็กสองฝั่งเติมเกมรุกใช้ได้ก็จริง แต่เกมรับดูจะมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นมากขึ้นๆ ส่วน การ์เซีย อาจไม่ใช่อนาคตสำหรับทีมอีกต่อไป ในเมื่อดาวรุ่งทีมชาติสเปน เหลือสัญญาอีกไม่ถึงปี และดูเหมือนใจของกองหลังวัย 19 ปี ลอยกลับไปอยู่กับต้นสังกัดเก่า บาร์เซโลน่า แล้วด้วย จึงมีข่าวว่า แมนฯ ซิตี้ ต้องการดึงตัว รูเบน ดิอาส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติโปรตุเกส มาจาก เบนฟิก้า ซึ่งดูแล้วคงต้องรีบดำเนินการปิดดีลให้เร็วที่สุด ในเมื่อทีมเสียไปแล้วถึง 6 ประตู จากการลงสนามเพียง 2 นัด

บ่อน้ำมันในทีม “ปิศาจแดง”

แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีเซ็นเตอร์แบ็กคู่ขวัญอย่าง สตีฟ บรูซ และ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ตั้งแต่ยุค 90 จากนั้นเคยทุ่มซื้อกองหลังระดับโลกอย่าง ยาป สตัม มาค้ำเกมรับ พาทีมประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่ ณ ปัจจุบัน “ปิศาจแดง” กลับเผชิญกับปัญหา “ประตูน้ำ” เสียประตูง่ายเกินไป เปิดฉากพรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ ทีมเสียไปแล้ว 5 ประตู โดย 3 ลูกจากเกมแรกที่พ่าย คริสตัล พาเลซ คาบ้าน 1-3 วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ดาวเตะทีมชาติสวีเดนรับผิดชอบไปคนเดียว

มาในเกมล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ VAR ช่วยทำให้บุกไปเฉือน ไบรท์ตัน 3-2 ชนิดที่ตอนแรกผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกมไปแล้ว โดยนัดดังกล่าว ปัญหาเกมรับยังคงหลอกหลอน “ผีแดง” ต่อไป จนแฟนๆ อยากเห็นบอร์ดบริหารดึง ปราการหลังตัวกลางรายใหม่เข้ามาจับคู่กัปตันทีม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ไม่ใช่ทู่ซี้ใช้งานบ่อน้ำมันอย่าง ลินเดเลิฟ ไปเรื่อยๆ

แต่ตราบใดที่ทีมยังไม่สามารถปล่อย คริส สมอลลิ่ง ออกไปได้ และด้วยการที่ยูไนเต็ด ยังมีตัวสแปร์อย่าง เอริค ไบญี่ อยู่อีกคน ทำให้การเปิดคลังเสริมทัพดูยากเย็นเสียเหลือเกิน ที่สำคัญ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอของทีมคิดจะเสริมทัพผิดจุดหรือเปล่า พยายามไปดึง อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายบราซิเลี่ยนมาจาก เอฟซี ปอร์โต้ ทั้งที่ “ปิศาจแดง” ก็มีทั้ง ลุค ชอว์ และเด็กปั้นอย่าง แบรนด้อน วิลเลี่ยมส์ อยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม วู้ดเวิร์ด ถึงโดนแฟนๆ เจิมอยู่ตลอด

“สิงโตน้ำเงินคราม” แก้ปัญหาเกมรับไม่ตก

เชลซี เสริมทัพได้น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นแนวรุก มีดึงแนวรับจอมเก๋าอย่าง ติอาโก้ ซิลวา ที่หมดสัญญามาจาก ปารีส แซงต์แชร์กแมงค์ เท่านั้น ซึ่งดาวเตะบราซิเลี่ยน ประเดิมสนามในเกมที่ทีมดังแห่งกรุงลอนดอน หืดจับสุดขีดตามหลัง 0-3 ต้องไล่ตีเสมอทีมต่ำชั้นกว่าอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-3 มี 1 แต้มสำคัญกลับออกมา

โดย “สิงโตน้ำเงินคราม” ลงเตะในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 3 นัด ผลงานชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 6 ประตู และก็เสียไป 6 ประตู ซึ่งแน่นอนว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือคนหนุ่มกำลังปวดหัวกับแผงเกมรับ การมาของ ซิลวา ยังไม่ตอบโจทย์ ในเมื่อบอลอังกฤษค่อนข้างเร็ว และการจับคู่กับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ก็ยังดูไม่กลมกลืน อาจต้องให้เวลาหาก เชลซี เลือกฝากอนาคตไว้กับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่นี้ เนื่องจาก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ดูเหมือนจะหมดอนาคตในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปแล้ว เมื่อ “แลมพ์” ไม่เลือกใช้บริการเลยในช่วง 3 นัดที่ผ่านมา หรือแม้แต่เกมฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ และเมื่อมองไปที่ตัวแบ็กอัพอย่าง เคิร์ต ซูม่า หรือ ฟิกาโย่ โทโมริ ดาวรุ่ง หาใช่คำตอบ (สุดท้าย) แม้แต่น้อย

ขณะเดียวกัน ตำแหน่งแบ็กซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ ดูเหมือนกำลังจะหมดอนาคตไปอีกคน เพราะผลงานที่ผ่านมา ช้าเป็นเรือเกลือ ไม่สามารถรับมือเกมรุกทางกราบของคู่แข่งได้เลย นี่ถ้า เบน ชิลเวลล์ หายเจ็บกลับมา อลอนโซ่ คงต้องหาสังกัดใหม่ไว้แต่เนิ่นๆ ได้เลย ส่วนแบ็กขวา เชลซี โชคดีที่ดัน รีซ เจมส์ ขึ้นมาเล่นแล้วฝากอนาคตเอาไว้ได้ แต่สำรองอย่าง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีมวัย 31 ปี ต้องบอกว่าผ่านจุดสูงสุดของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งนี่คือ “วิกฤติเกมรับ” ที่เกิดขึ้นกับ 3 ทีมใหญ่พรีเมียร์ลีก ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์ ก็ต้องชำเลืองแนวรับไว้เหมือนกัน เพราะจะถอย ฟาบินโญ่ ไปยืนขัดตาทัพบ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่อง และก็ไม่รู้ว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะแบก โจ โกเมซ ไปได้ตลอดแค่ไหน ขณะที่ อาร์เซนอล จากทีมที่เคยเสียประตูมากกว่าเพื่อนๆ ตอนนี้ มิเกล อาร์เตต้า มีการปรับแนวรับมาใช้ระบบเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน ที่ดูตอบโจทย์ความเป็นธรรมชาติของ “ปืนใหญ่” ดีทีเดียว ไม่แน่เหมือนกัน ไม่ทีมใดทีมหนึ่งข้างต้นที่กำลังเผชิญปัญหาเกมรับอยู่ อาจมีการปรับแท็คติก ระบบการเล่นกับเขาบ้าง ถ้าเกิดไม่อยากเสียเงินในตลาดซื้อขายนักเตะที่กำลังจะปิดตัวลงช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้

 

 

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน

บทความข่าวฟุตบอล :: อ่านบทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี

@footballmoment