สตีเว่น เจอร์ราร์ด ข้อมูลหัวหน้าแห่งทีม หงส์แดง ที่สร้างชื่อเสียง
หัวหน้าทีมแห่งค่าย“ อัศวินแดง” ลิเวอร์พูลมีชื่อเต็มว่า สตีเว่นจอร์จเกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2523ที่เมืองวิลเลียมเมอร์ซี่ย์ไซเบอร์ลิเวอร์พูลเข้าสู่เส้นทาง ลูกหนังจาก การลงเล่นให้กับโรงเรียนคาร์ดินัลฮีแนนคาธอลิกไฮจ์สคูล ในเวสต์ดาร์บี้เมืองลิเวอร์พูล โดยในตอนอายุ 8ขวบเขาเป็นสมาชิกของทีมที่ได้รับการยกย่อง ในฐานะนักเตะมืออาชีพของทีม“ หงส์แดง” ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 1997
โดยได้รับเงิน ค่าจ้างก้อนแรกที่ 700 ปอนด์ (ประมาณ 44,100 บาท)ต่อสัปดาห์เจอร์ราร์ด ได้ชื่อว่าเป็นกองกลาง พลังไดนาโม โดยเขาเริ่มแจ้งเกิด มาในตำแหน่งปีกขวา ก่อนที่จะขยับมาเล่น ในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรับ แต่ด้วยความเป็นนักเตะ ที่มีความสามารถ ทั้งการช่วยเกม รับและการเติมเกมรุก แถมยังยิงไกล ได้แม่นยำทำให้เจอร์ราร์ด จึงค่อยๆ เปลี่ยนบทบาท ของตัวเอง
มาเป็นกองกลางเชิงรุกไปแล้วเจอร์ราร์ดหรือที่มีนิคเนมว่า”สตีวี่จี” ได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในนามทีมลิเวอร์พูล ชุดใหญ่ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2541 โดยเขาถูกทิ้ง ลงเล่นแทนเวการ์ดเฮ็ก เกมในเกมที่พบกับเกมแบล็คเบิร์น ในขณะที่เกม ที่เขาได้รับการปล่อยตัว ออกมาเป็นตัวจริง เกมแรกเกิดขึ้น ในเกมยูฟ่าคัพพัต 1998 ที่พบกับเบลล่า ได้รับรางวัลแล้วและ “หงส์แดง”
เขาเป็นฟุตบอลที่เก่งมาก เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ มีจุดมุ่งหมาย และกล้าเปิด ความเก่งในตัวสร้างชื่อเสียงในด้านที่ ตังเองชอบ ไม่ว่าจะแข่งสนามไหน เป็นทำเกมส์ให้ทีมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรุก หรือตัวรับเขาก็ทำได้ดี ไม่เคยที่จะทำให้แฟนๆ นั่นผิดหวังในตัวของเขาได้เลย จึงเป็นที่ชื่นชอบในการแข่งทุกสนานที่เขาลงแข่งขัน ที่สวย เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้จะกลาย เป็นสิ่งสำคัญ ของลิเวอร์พูลแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญ ของทีมชาติอังกฤษ อีกด้วย โดยเขาก็เล่นให้กับทีม“ สิงโตคำราม” ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม 2000 ภายใต้การดูแล ของทีมเควินคีแกน พบกับยูเครน และเขาได้รับการเรียก ให้ติดทีมอังกฤษ ชุดลุยศึกชิงแชมป์ แห่งชาติในปี 2000ที่ประเทศเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์
ในการสร้างชื่อเสียง นั่นสำคัญที่สุดในฝีเท้า และมันสมองของเขา ทำให้เขาได้เป็นที่หนึ่ง ในทุกด้านของเกมมส์การแข่งขันฟุตบอล ที่สร้างชื่อเสียง บอกเลยเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ สร้างชื่อเสียงด้ววยฝีมือและมันสมองที่เก่งมาก อ่านเกมส์แต่ละการแข่งขันได้ออก เป็นอีกคนที่เป็นกำลังสำคัญของทีม ที่สามารถทำให้ทีมเป็นฝ้ายชนะในเกมส์การแข่งขัน
แต่ก็ได้รับ การวางตำแหน่งตัว ได้ภายใต้การดูแล ของทีมเควินคี แกนพบกับยูเครน และเขาได้รับการเรียกร้อง ให้ทีมอังกฤษ ชุดลุย ศึกชิงแชมป์ แห่งชาติในปี 2000 ที่ประเทศเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ตำแหน่งที่แท้จริง ได้ และได้รับเงินรางวัล เป็นผลงานที่ดีที่สุด ทำลายสถิติของทีมชาติอังกฤษไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยทีมชาติอังกฤษที่ญี่ปุ่นและญี่ปุ่นได้รับชัยชนะ ต้องถอนตัวออกจากทัพในชุดทีมที่ดีที่สุด แล้วมีปัญหามากมาย ที่ต้องได้รับการผ่าตัด มาถึงในศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกสโปรตุเกส ได้กลับมาเป็นกำลังสำคัญ ให้กับทีมในการทำศึกครั้งต่อไป ที่เขามีส่วนสำคัญ ทำให้ทีมผ่านการแข่งขัน 8 ทีมสุดท้าย ได้รับรางวัลชนะเลิศ ให้ทีมจม ไปอย่างน่าเสียดาย และอีก 2 ปี
เขาต้องสร้างความเสียใจไม่นาน นอกจากนั่น ชุดทีมที่ดี และยังกลับมาสร้างชื่อเสียงอีกครั้ง บอกเลยว่า การกลับมาครั้งนี้ ทำให้อนาคตทีมชาติ ที่เขาควบคุมสามารถสร้างชื่อเสียง ให้ได้อีกครั้ง การร่วมตัวของคนเก่งในทีม ทำให้ได้รับตำแหน่งที่เก่งจริงอีกครั้ง ในเกมส์การแข่งขัน ทำให้แฟนๆ ไม่ผิดหวังในการควบคุมทีมได้อีกครั้ง
การที่สร้างชื่อที่มีผลงาน มามากมายที่สร้างชื่อเสียง ทำให้มีผลงานออกมา ให้ชื่นชม ให้แฟนๆ ได้ชมผลงานออกมาได้สวย ไม่ว่าจะลาฝีเท้าไปแล้วก็ตาม ก็ยังฝากผลงานที่ทำให้ ไม่มีใครลืม ได้หลงกับผลงาน ไม่ว่าจะเป็นยิงประตูที่สวยงาม ที่ใครๆ ไม่เคยลืม กับฝีเท้าของเขาได้เลย ยังเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เป็นเวลายาวนานอีกด้วย
ของพวกเขา ได้รับชัยชนะ จากการต่อสู้เพื่อ เอาชนะโปรตุเกส ต้องฝันร้ายเมื่อเป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นอังกฤษที่ยิงไปติดตั้ง อย่างปลอดภัย ของผู้เล่นตัวจริง และผู้เล่นประตูของทีมฝอยทอง และ การยิงประตูทางเข้า ของอังกฤษในครั้งนี้ กัปตันทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทีม ของทีมชาติอังกฤษ พ่ายแพ้โคโค่รัสเซีย และรัสเซียส่งผลให้ทีมชาติอังกฤษ
ได้รับแต่งตั้งเป็นประมุข ฟาบิโอคาเปลโล่มากุมบังเหียน เตรียมพบกับชัยชนะ ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โซนยุโรปเวิลด์คัพ 2014 ขอแสดงความยินดี กับผู้ชนะ ”ทรีไลท์อ้อนวอน” ประเทศชาติด้วยความหวังว่า จะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่า ย่ำแย่กว่าคิดอังกฤษแพ้ 2และเสมอ1 มีเพียง 1 คะแนนกระหน่ำกรอบไปจนถึงเกมที่ 2 ที่ทำได้สวยงาม เลยทีเดียว
นี้ก็เป็นผลงานของนักฟุตบอล ที่เราเอามาฝากให้ได้ชื่นชอบ ของการแข่งขันยังคงมีความผิดพลาด ของตัวเขาเองที่ต้องเก็บไว้เจ็บช้ำหัวใจ อีกในเกมที่พบกับ ” จอมโหด ” ‘อุรุกวัยขณะที่เกมเสมอกันอยู่ 1-1 การโจมตี ครั้งสุดท้าย ที่จะส่งผลให้เกิด การยิงปืนใหญ่ ในการยิงปืนใหญ่ และการยิงปืนใหญ่ ในการแข่งขันรอบ สุดท้าย ของสหพันธรัฐ เป็นได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่**https://www.footballmoment.com/