อัลฟอนโซ่ เดวิส ดาวรุ่งฟอร์มแรง แบ็คซ้ายตัวหลังของทัพเสือใต้
พบกับอัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็คซ้ายจรวดทางเรียบ ที่มีความเร็วจัดจ้านของบาเยิร์น มิวนิค อัลฟอนโซ่ เดวิส จากเด็กลี้ภัย สู่ว่าที่แบ็คซ้ายที่ดีที่สุด เท่าที่โลกนี้เคยมีมา
อัลฟอนโซ่ เดวิส (Alphonso Davies) นักฟุตบอลอายุน้อย ที่มีฟอร์มการเล่นที่จัดจ้าน และมีทีเด็ดอยู่ที่ความเร็ว ที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งในฤดูกาล 2019-2020 ถือเป็นฤดูกาลที่เดวีสได้แจ้งเกิดอย่าวเต็มตัว ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี เท่านั้น แต่สามารถระเบิดฟอร์มโหด จนผู้จัดการทีมในช่วงต้นซีซั่นอย่างนิโก้ โควัช ได้ขยับเอา ดาวิด อลาบา ที่ปกติเล่นในศูนย์แบ็คซ้าย
ให้หุบเข้าไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้ายแทน โดยเดวีส ได้รับโอกาสลงสนามก่อนแบ็คซ้ายดีกรีแชป์ฟุตบอลโลก 2018 อย่าง ลูคัส เอร์นองเดช เสียอีก เขาเป็นดาวรุ่งที่บาเยิร์น มิวนิค ไปคว้าตัวมาจากแวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์ ทีมจากเมเจอร์ ลีก ซ้อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา การค้าแข้งกับบาเยิร์นในปัจจุบันนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับฝีเท้าแล้วนั้น ยังเป็นการเปิดประตูสู่ความสำเร็จ
ตั้งแต่ที่อายุยังน้อยอีกด้วย และสามารถได้รับทริปเปิ้ลแชป์ด้วยเพียงอายุแค่ 19 ปี ในซีซั่นที่ผ่านมานั่นเอง โดยเดวิสไม่ได้ย้ายมาในฐานะแข้งสำรอง หรือว่าอะไหล่ของทีม แต่เขาสามารถสถาปนาตัวเองให้เป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงของทัพเสือใต้ได้ หลังจากย้ายเข้ามาเพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเครื่องหมายยืนยันความสุดยอด ของอัลฟอนโซ่ เดวิสได้เป็นอย่างดี
อัลฟอนโซ่ เดวิส เป็นผู้เล่นสัญชาติแคนาดา เขาเกิดเมื่อวันที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2000 โดยสามารถเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย หรือว่าปีกซ้ายได้ทั้งสองตำแหน่ง แต่เดวิส สามารถระเบิดฟอร์มสุดยอดได้ จากตำแหน่งแบ็คซ้าย ปัจจุบันลงเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ถือเป็นนักฟุบอลอายุน้อย ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด
เทียบเท่ากับผู้เล่นที่อายุใกล้เคียงกันอย่าง เจดอน ซานโช่ เออร์ลิ่ง บราวท์ ฮาลันด์ หรือว่า คีลียัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งในอนาคตอันใกล้ พวกเขาเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นเวิร์ดคลาสอย่างแน่นอน จากการคาดเดาของกูรู และผู้เชี่ยวชาญในวงการฟุตบอลหลายๆคน เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในปี 2000 ที่ลงเล่นใน MLS กับแวนคูเวอร์ซึ่งเป็นสโฒสรแรกของเขา ที่เริ่มค้าแข้งด้วย หลังจากที่อพยพจากภัยสงครามในประเทศกานาช่วงปี 2000
เดวิส ยอดแข้งผู้ลี้ภัยสงคราม ที่โชว์ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นในแดนมะกัน
อัลฟอนโซ่ เดวิส ลืมตาดูโลกที่บูดูบูรัมในประเทศกานา ซึ่งเป็นเขตลี้ภัยสงตรามทางตะวันออก โดยพื้นเพครอบครัวของเขานั้น เป็นชาวลิเบียตั้งแต่กำเนิด ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ย้ายออกจากบ้านเกิดไปอยู่ที่กานา และต่อมาก็ได้ย้ายไปอยู่ที่แคนาดา ในตอนที่เดวิสมีอายุ 5 ขวบเท่านั้น สำหรับเด็กในวัยนี้ การย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยบ่อยๆนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก
เพราะเด็กจะมีปัญหาเรื่องการปรับตัวนั่นเอง โดยเจ้าตัวก็ยอมรับเลยว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อใหม่ แต่เขาก็ผ่านมาได้ และได้สตาร์ททำในสิ่งที่เขารัก ซึ่งก็คือการเล่นฟุตบอลนั่นเอง ซึ่งเข้าได้สตาร์ทกับทีมเยาวชนของท้องถิ่น ใกล้กับบ้านใหม่ในแคนาดาอย่าง เอ็ดมอนตัน อินเตอร์เนชั่นแนล และได้ย้ายไป เอ็ดมอนตัน สไตรเกอร์ส หลังจากนั้นในปี 2015
จะได้รับการทาบทามเข้าร่วมทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์อย่าง แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ โดยในช่วงแรกเดวิสต้องเล่นกับเยาวชนไปก่อน เหมือนกับผู้เล่นเยาวชนทั่วไป หลังจากที่ได้ลงเล่นกับทีมเยาวชนสักพัก ในปี 2016 เดวิสก็ได้ลงเล่นให้กับแวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์ 2 ซึ่งเป็นทีมสำรองนั่นเอง โดยลงเล่นไปทั้งหมด 11 เกมทำได้ 2 ประตูจากทุกรายการ
หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสเลื่อนขั้นไปเล่นกับทีมขุดใหญ่ ในฤดูกาล 2016/2017 โดนลงเล่นในตำแหน่งตัวรุกกราบซ้าย ที่เป็นสไตล์แบบปีกจอมบุกที่เน้นเปิดบอลมากกว่า ซึ่งเขาได้จรดปากกาเซ็สสัญญากับแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ โดยเป็นการเซ็นสัญญาถึงปี 2018 โดยเขาที่เป็นเด็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ได้เล่นใน MLS
ฉาวแววความเป็นยอดดาวเตะตัวท็อป จนได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป
ในระหว่างที่กำลังค้าแข้งอยู่กับแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์นั้น เดวิสได้รับความสนใจจากทางทีมใหญ่ทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เชลซี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล และบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งจากเกียรติประวัติของเดวิสนั้น ได้รับการจับตามองมากยิ่งขึ้น เดวิสได้ติดอันดับดาวรุ่งที่ดีที่สุดในปี 2018 ซึ่งก็ลากยาวมาจนถึงปลายซีซั่น 2017/2018 เดวิสเป็นหนึ่งในทีมออลวตาร์ของ MLS ในนัดอุ่นเครื่องพบกับยูเวนตุสอีกด้วย
หลังจากที่มีหลายทีมใหญ่จากฝั่งยุโรปตามจีบอยู่นาน จนในท้ายที่สุด ในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ปี 2018 ทางสโมสรแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ว่าบาเยิร์น มิวนิค ได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าอันฟอนโซ่ เดวิสไปร่วมทีมเรียบร้อย ซึ่งทางเสือใต้ก็ได้ให้เจ้าตัวลงเล่นให้กับต้นสังกัดเดิมไปก่อน จนถึงช่วงตลาดหน้าหนาวปีต้นปี 2019 เอาก็ได้ย้ายไปซบยักษ์ใหญ่จากเมืองเบียร์
ด้วยค่าตัว 13.5 ล้านดอลลาร์ พ่วงด้วยโบนัสรวมเป็นทั้งหมด 22 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเดวิสได้ลงเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคเป็นเกมแรก ในช่วงเดือนมกราคมปี 2019 ในเกมพบกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และได้ลงประเดิมสนามในเกมบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในเดือนเดียวกัน ในเกมที่พบกับ สตุ๊ตการ์ท ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนลงเป็นตัวสำรองสลับกับ คิงสลีย์ โกมัน
ซึ่งจบเกมด้วยสกอร์ 3-1 ช่วยให้บาเยิร์นเก็บ 3 แต้มได้อย่างสวยงาม ในฤดูกาลดังกล่าวก็จบด้วยการคว้าแชมป์อย่างสวยงา มระหว่างเดวิสกับบาเยิร์น ด้วยการจบด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมันในฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งมีคะแนนเหนือทีมอันดับ 2 อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น พร้อมกับคว้าแชมป์ร่วมกับบาเยิร์น มิวนิคในรายการบอลถ้วยของประเทศอย่างเดเอฟเบ โพคาล ได้อีกด้วย
ยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีม กลายเป็นแบ็คจอมบุก ที่มีฝีเท้าโดดเด่นในรายการ UCL
ในฤดูกาล 2019/2020 ถือว่าเป็นเรื่องการที่เดวิสได้เกิดกับทางบาเยิร์นมิวนิค ซึ่งเขาได้ลงเล่นเกมลีกเป็น 90 นาทีเป็นเกมแรก ในเกมที่เปิดบ้านพบกับ ยูนิโอน เบอร์ลิน โดยเป็นเสือใต้ที่ทำได้ดีกว่า ด้วยการเปิดรังเอาชนะไปได้ 2-1 ตลอดฤดูกาลนั้น เขาลงเล่นแบ็คซ้ายเป็นส่วนใหญ่ เป็นสาเหตุที่ทำให้ดาวิด อลาบาต้องไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ เฌโรม บัวเต็ง ในฤดูกาลนั้น
ซึ่งตำแหน่งนี้บวกกับความเร็วของเขา ที่หาตัวจับได้ยาก โดยหนึ่งเกมที่รับการพูดถึงมากที่สุด ก็คือเกมที่เสื้อใต้ออกไปเยือน เชลซี ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีม ซึ่งเกมนั้นเป็นเกมที่เสือใต้บุกไปยำใหญ่ใส่สิงโตน้ำเงินครามถึง 3-0 ซึ่งมี 1 ประตูที่เป็นการประสานงานกันระหว่างเดวิสและดาวยิงรุ่นพี่อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งเป็นจังหวะที่เดวิสนั้นแย่งบอลหลบผู้เล่นของเชลซี 3 คนก่อนที่จะตบเข้ากลางให้เลวานดอฟสกี้ แท็บอินเข้าไปง่ายๆ
จบฤดูกาลที่สองกับบาเยิร์น ด้วยการเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ เป็นครั้ง 2 ในประวัติศาสตร์ของทีม
ด้วยผลงานสุดยอด ภายใต้ทีมของหัวเรือคนใหม่อย่างฮันซี่ ฟลิคที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีม ที่แตกต่างจากนิโก้ โควัช ที่ทำทีมด้วยปรัชญาเกมรับ เน้นความรัดกุมมากจนเกินไป ซึ่งแตกต่างจากฟลิค ที่ทำทีมโดยยังคงความเป็นบาเยิร์นมิวนิคเสมอ นั้นก็คือการเล่นด้วยการชนะทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการครอบครองบอล หรือว่าจะเป็นการทำเกมบุก ที่เน้นการเล่นด้วยความดุดัน
ซึ่งเหมาะกับการเล่นสไลต์แบบเดวิสพอดี ซึ่งด้วยระบบการเล่นแบบใหม่ ทำให้บาเยิร์น มิวนิค กลายสภาพเป็นเสือติดปีกในทัน โดยในฤดูกาล 2019/2020 บาเยิร์นมิวนิคก็จบด้วยทริปเปิ้ลแชมป์ ประกอบไปด้วยแชมป์บุนเดสลีกา แชมป์เดเอฟเบ โพคาล และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อันฟอนโซ่ เดวิสนั้น เป็นส่วนสำคัญของทีมชุดประวัติศาสตร์ชุดนี้อีกด้วย
ติดตามวิเคราะห์บอลได้ที่ >>> https://www.footballmoment.com/