“ฟาน เดอ เบค” กลางอเนกประสงค์ (ว่าที่) ปิศาจแดง
ปล่อยให้หลายทีมคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสริมทัพกันสนุกสนาน
ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มขยับตัวบ้างแล้ว โดยกำลังจะกระชากตัว ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มาร่วมทัพ
ปล่อยให้หลายทีมคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสริมทัพกันสนุกสนาน
ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มขยับตัวบ้างแล้ว โดยกำลังจะกระชากตัว ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มาร่วมทัพ เตรียมจ่ายค่าตัวให้ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในลีกดัตช์ 40 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1,650 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ FootballMoment จะพาไปทำความรู้จักกับมิดฟิลด์อเนกประสงค์ ที่จะเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์เติมเต็มแดนกลาง “ปิศาจแดง” ให้แข็งแกร่ง สำหรับการกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่
จากเด็กปั้นอาแจ๊กซ์ สู่ก้าวย่างสำคัญในชีวิต
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค เกิดในครอบครัวที่เป็นแฟนบอลอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตัวยง ดังนั้น อังเดร และ เกอร์ดิน่า มักจูงมือลูกชายไปชมเกมที่ อาแจ๊กซ์ ลงสนามตั้งแต่อายุ 5 ขวบ พร้อมกับสนับสนุนให้ลูกชายทั้งสองคนอย่าง ดอนนี่ และ โรดี้ เล่นฟุตบอล โดยให้ไปอยู่ในอะคาเดมี่ของ วีนเช่ บอยส์ ตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่ปี 2014 ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค จะได้โอกาสครั้งสำคัญในชีวิต เซ็นสัญญา 3 ปี เป็นนักเตะเยาวชนอาแจ๊กซ์ ไปเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังกับอะคาเดมี่ที่ปั้นนักเตะระดับโลกขึ้นมาประดับวงการมากมาย
ให้หลังแค่ปีเดียว ฟาน เดอ เบค ถูกส่งไปเล่นให้ ยอง อาแจ๊กซ์ หรือทีมสำรองของ อาแจ๊กซ์ ลุยลีกรอง ก่อนที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ ซึ่งนั่งคุมบังเหียนสมัยนั้น ได้เรียกตัว ฟาน เดอ เบค ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ลุยเกมเอเรดิวิซี่ ลีกดัตช์ ตามด้วยฟุตบอลถ้วยยุโรป ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ถึงแม้สโมสรจะมีการเปลี่ยนตัวนายใหญ่มาเป็น ปีเตอร์ บอสซ์ และล่าสุดเป็น เอริค เทน ฮาก แต่ ฟาน เดอ เบค ก็ยังรักษามาตรฐาน ได้ลงสนามให้ทีมอย่างต่อเนื่อง ฤดูกาล 2019-20 ลงเล่นให้ อาแจ๊กซ์ ถึง 57 นัดจากทั้งหมดที่ทีมลงเล่น 58 นัดในทุกรายการ ทำไป 17 ประตู กับอีก 13 แอสซิสต์ จนได้รับความสนใจจาก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีก้า สเปน แต่ที่สุดแล้ว ดาวเตะผมทองกำลังจะเก็บข้าวของมาอยู่ใน “โรงละครแห่งความฝัน” ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เหตุผลที่ยูไนเต็ด ห้ามพลาด “ฟาน เดอ เบค”.
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกุนซือที่ชอบใช้งานนักเตะดาวรุ่ง ซึ่งฝีเท้า ฟาน เดอ เบค น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยวัยเพียง 23 ปี แต่มิดฟิลด์ชาวดัตช์รายนี้ สร้างชื่อตั้งแต่สมัยเป็นแข้งเยาวชนอาแจ๊กซ์ ทำไป 25 ประตู จากการลงสนาม 77 นัด ก่อนขึ้นมาฝากผลงานทิ้งท้ายกับ อาแจ๊กซ์ ชุดใหญ่ด้วยการยิงไป 54 ประตู จากการลงสนาม 138 นัด
หาใช่เพียงประสบการณ์ในลีกดัตช์ ฟาน เดอ เบค ยังได้สัมผัสเกมยุโรปมากมายกับ อาแจ๊กซ์ โดยซีซั่นที่ผ่านมา กองกลางฮอลแลนด์ยิงประตูทั้ง “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี และทำสกอร์ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ มาแล้วในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ในนามทีมชาติ ฟาน เดอ เบค ยังเบิกประตูให้ “อัศวินสีส้ม” ไม่ได้จากการลงเล่นทีมชุดใหญ่ 10 นัด แต่บอกได้เลยว่านักเตะคนนี้ยังไม่ถึงจุดพีค
ครบเครื่องเรื่องต้มยำ
นักเตะหมายเลข 6 หมายเลข 10 และหมายเลข 9 คือ ตำแหน่งที่ ฟาน เดอ เบค สวมบทบาทมาแล้วทั้งนั้นสมัยเล่นให้กับ อาแจ๊กซ์ โดย บทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ (หมายเลข 6) คือ สิ่งที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ พยายามปลูกฝังให้ ฟาน เดอ เบค เป็นนักเตะที่เล่นแบบ “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ได้เก่งที่สุดในโลก สามารถตัดเกมคู่แข่งหน้าบ้านตัวเอง ก่อนพาบอลขึ้นไปสู่อีกฟากหนึ่งได้ทันท่วงที
แต่จุดเด่นจริงๆ ของ ฟาน เดอ เบค คือ การเล่นเกมรุก ตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ (หมายเลข 10) จึงเป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากทั้ง ปีเตอร์ บอสซ์ , มาร์เซล ไกเซอร์ และ เอริค เทน ฮาก ซึ่งจินตนาการในเกมบุกของ ฟาน เดอ เบค ถือเป็นทีเด็ด การเล่นแบบไม่มีบอล คอยวิ่งทำทางให้เพื่อน ก่อนรับบอลต่อแล้วทำประตูด้วยตนเอง หรือจ่ายบอลให้เพื่อนใส่สกอร์ เป็นสิ่งที่คุ้นตาแฟนๆ อาแจ๊กซ์ และในบางครั้งเราจะได้เห็น ฟาน เดอ เบค รับบทหมายเลข 9 เป็นลักษณะ “False 9” สำหรับแผนที่ไม่มีกองหน้าตัวเป้า แต่จะใช้มิดฟิลด์ตัวรุกให้เป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่ง ฟาน เดอ เบค สามารถดึงคู่แข่งออกจากโซนรับได้ สร้างช่องว่างที่หลากหลายเพื่อการโจมตี เป็นนักเตะที่ไปกับบอลได้เยี่ยมอยู่แล้ว แถมมีทีเด็ดในเรื่องของการทำประตูทั้งใกล้และไกล อีกต่างหาก
จิ๊กซอว์เติมเต็ม “อสูรแดง”
การกำลังจะมาของ ฟาน เดอ เบค ทำให้สาวก “เร้ด เดวิลส์” สบายใจขึ้นเป็นแน่ เมื่อเขาผู้นี้จะมาลงล็อคยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กับ ปอล ป็อกบา ในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งตำแหน่งนี้ โซลชา พยายามหาตัววางที่เหมาะสมมาตลอด ให้โอกาสทั้ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ดาวรุ่ง , ตัวเก๋าอย่าง เนมันย่า มาติช หรือว่าแข้งบราซิเลี่ยนอย่าง เฟร็ด ที่แฟนๆ มองว่ายังไม่นิ้งเท่าไหร่ ดังนั้นการมาของ ฟาน เดอ เบค ย่อมตอบโจทย์ที่ชัดเจน
ด้วยความอเนกประสงค์ของ ฟาน เดอ เบค ยังสามารถขยับขึ้นไปยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์แทนที่ บรูโน่ แฟร์นานเดส ได้เช่นกัน ในยามที่ดาวเตะโปรตุกีส โดนคู่แข่งจับทางได้ หรือกรณีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คิดจะพัก บรูโน่ ก็สามารถคิดถึง ฟาน เดอ เบค ได้ในบางเกม หรือไม่ก็ให้ทั้ง ฟาน เดอ เบค เล่นร่วมกับ บรูโน่ ไปเลย ในเมื่อ ฟาน เดอ เบค สามารถถ่างออกไปเล่นทางริมเส้นแทนแข้งดาวรุ่งอย่าง เมสัน กรีนวูด ได้อยู่แล้ว และการเปิดบอลแบบ “คิลเลอร์ พาส” จะช่วยให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล หรือแม้แต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ผลิตสกอร์ให้ทีมได้มากขึ้นแน่นอน
ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน
ประวัตินักฟุตบอล :: อ่านประวัตินักฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี