“เบลลิงแฮม” แข้งที่กล้าปฏิเสธผีแดง เดินเข้ารัง “เสือเหลือง”
จู๊ด เบลลิงแฮม ตกเป็นข่าวฮือฮา เมื่อตัดสินใจย้ายร่วมทัพ “เสือเหลือง”
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีก้า เยอรมนี พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึงสัปดาห์ละ 52,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ต้นสังกัดได้เงินเข้าสโมสรไป 25 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1 พันล้านบาท และอาจเพิ่มเป็น 30 ล้านปอนด์ (กว่า 1.2 พันล้านบาท) ตามเงื่อนไขผลงานของเจ้าหนูรายนี้ ซึ่งวันนี้ เราจะไปทำความรู้จักกับกองกลางที่กล้าปฏิเสธ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก
เก่งกาจเกินเด็ก
เบลลิงแฮม ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2003 เกิดที่เมืองสตอร์บริดจ์ ทางตะวันตกของมิดแลนด์ เป็นบุตรชายคนโตของ มาร์ค เบลลิงแฮม ตำรวจยศจ่า โดย เบลลิงแฮม เข้าสู่อะคาเดมี่ฟุตบอล เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ไม่นานเจ้าหนูรายนี้ก็ฉายแววให้สตาฟฟ์โค้ชและบรรดาแมวมองได้เห็น เมื่อลงเล่นให้ทีมชุดยู 18 ปี ด้วยวัยเพียง 14 ปี และในวัย 15 ปี ก็ถูกดันขึ้นไปเล่นร่วมกับทีมชุดยู 23 ปีแล้ว เรียกได้ว่าต่ออายุให้พี่ๆ พอสมควร จนนิตยสารลูกหนังชั้นนำของโลกอย่าง “FourFourTwo” ยกให้ เบลลิงแฮม เป็นหนึ่งใน 50 นักเตะที่เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของวงการลูกหนังอังกฤษ และเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เบลลิงแฮม ยังทุบสถิติ เทรเวอร์ ฟรานซิส ตำนานแข้งทีมชาติอังกฤษ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับอีก 38 วัน ขณะเดียวกัน เบลลิงแฮม ยังติดทีมชาติอังกฤษมาแล้วทั้งชุดยู 15 ปี ยู 16 ปี ยู 17 ปี และอาจไม่นานเกินรอที่แฟนๆ “สิงโตคำราม” จะได้เห็นเด็กคนนี้ได้โอกาสไปเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่
เป็นเด็กขยัน มีความหลากหลาย
เคยเห็นคุณพ่อเล่นฟุตบอลระดับนอกลีก จู๊ด เบลลิงแฮม จึงมีความฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เจ้าหนูรายนี้หมั่นเพียรขยันฝึกซ้อม จนไม่มีเวลาเล่นวิดีโอเกมส์ เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ เบลลิงแฮม จะทำผลงานได้โดดเด่นเกินนักเตะรุ่นราวคราวเดียวกัน โดยขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดยู 15 ปี ตั้งแต่อายุ 13 ขวบ ล่าสุด ดาวเตะที่มีส่วนสูง 180 เซนติเมตร ลงเล่นให้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ชุดใหญ่ไปแล้ว 43 นัดในทุกรายการ ลุยศึกเดอะแชมเปี้ยนชิพ ไปแล้วกว่า 2,000 นาที และด้วยหน่วยก้านที่สมส่วน เบลลิงแฮม สามารถดันขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าได้สบายๆ หรือจะให้เล่นตำแหน่งถนัดอย่าง มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือ ปีกซ้าย เบลลิงแฮม ก็ทำผลงานได้เยี่ยมเช่นกัน ยิงไป 4 ประตูให้ “เดอะบลูส์” ในฤดูกาลนี้
มะรุมมะตุ้มรุมรัก “เบลลิงแฮม”
เป๊ป โคลเทต ผู้ช่วยโค้ช และกุนซือขัดตาทัพของ เบอร์มิงแฮม ชื่นชม จู๊ด เบลลิงแฮม ที่มีความคิดความอ่านเกินเด็ก และทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมเมื่อได้รับคำสั่งให้ลงสนาม ด้วยพรสวรรค์ บวกกับระเบียบวินัย โค้ชชาวสเปนไม่รู้สึกแปลกใจที่ เบลลิงแฮม จะได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรในยุโรป ที่แวะเวียนมายังสนามซ้อม หรือสนามแข่ง เพื่อชมฝีเท้า เบลลิงแฮม ให้ประจักษ์แก่สายตา
ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับเอ่ยปากเชิญให้ เบลลิงแฮม และครอบครัวเดินทางมาเยี่ยมชมสนามซ้อม และลองมาสัมผัสบรรยากาศของ “โรงละครแห่งความฝัน” (สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด) แต่ เบลลิงแฮม ก็ตัดสินใจเลือกแล้วว่าจะฝากอนาคตไว้ในถ้ำ “เสือเหลือง” และก็รอคอยไม่ไหวที่จะโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลกว่า 8 หมื่นคน ในสนามซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ได้เห็นกัน
เตรียมผนึกกำลัง “จาดอน ซานโช่”
ดูเหมือนจะติดใจนักเตะดาวรุ่งจากฝั่งอังกฤษ หลังจากที่ ดอร์ทมุนด์ เคยเจียดเงิน 8 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 320 ล้านบาท ไปดึงตัว จาดอน ซานโช่ มาจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2017 ซึ่งตัวรุกทีมชาติอังกฤษก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อเป็นเช่นนี้ “เสือเหลือง” จึงกล้าลงทุนมหาศาลไปกับ จู๊ด เบลลิงแฮม โดย มิชาเอล ซอร์ค ผู้อำนวยการด้านฟุตบอลของดอร์ทมุนด์ มั่นใจว่า เบลลิงแฮม จะทำให้ทีมชุดใหญ่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก และนี่คือสมบัติสโมสรที่ล้ำค่าไม่น้อยไปกว่า ซานโช่ รุ่นพี่ทีมชาติอังกฤษ
โดย ดอร์ทมุนด์ ไม่ต้องการดึงตัว เบลลิงแฮม มาแทนที่ ซานโช่ ในทางกลับกันทีมมองว่าทั้งคู่จะเข้ามาส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในเมื่อ เบลลิงแฮม โดดเด่นอยู่แล้วในตำแหน่ง กองกลางหมายเลข 8 ในระบบมิดฟิลด์ 3 คน ซึ่งเด็กหนุ่มชาวอังกฤษ จะใช้ความสดและความแข็งแกร่งเล่นในบทบาท “Box to Box” หรือ มิดฟิลด์ประเภทที่สามารถเล่นเกมรับหน้าแผงหลังตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถเปลี่ยนจังหวะดันเกมรุกให้ทีมได้อย่างฉับไว นี่อาจจะทำให้ ซานโช่ ในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 สร้างสรรค์เกมได้ง่ายขึ้น
ถ้าไม่เกิดกรณีที่ ดอร์ทมุนด์ ต้องยอมขาย ซานโช่ ออกไปเพื่อแลกกับเงินก้อนโต แฟนๆ “เสือเหลือง” พอจะเห็นภาพ และวาดฝันได้เหมือนกันว่าคู่หูดาวรุ่งจากเกาะอังกฤษอย่าง ซานโช่ และ เบลลิงแฮม จะเข้ามาช่วยให้ทีมเขย่าบัลลังก์ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ลงได้ในฤดูกาลหน้า 2020-2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้ต่อไป
ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน
บทความข่าวฟุตบอล :: อ่านบทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี